รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้านั่งขับ

รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้านั่งขับมือสอง ประหยัดพลังงาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คุ้มค่าการลงทุน
รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้านั่งขับมือสอง (Used Electric Sit-down Forklift) เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการประหยัดต้นทุน ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และใส่ใจสิ่งแวดล้อม เหมาะสำหรับใช้งานในโรงงาน คลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้าทุกขนาด
ข้อดีของรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้านั่งขับมือสอง
– ประหยัดค่าพลังงานสูงสุดถึง 70%
– ไม่มีมลพิษ ไร้เสียงรบกวน
– บำรุงรักษาง่าย ค่าใช้จ่ายต่ำ
– ทำงานได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง
– สะดวกสบายในการขับขี่ระยะยาว
รุ่นและขนาดที่มีจำหน่าย
1. **รถยกไฟฟ้าขนาดเล็ก (1.0-2.0 ตัน)**
– เหมาะกับคลังสินค้าทั่วไป
– ประหยัดพื้นที่การใช้งาน
– คล่องตัวสูง
2. **รถยกไฟฟ้าขนาดกลาง (2.5-3.5 ตัน)**
– เหมาะกับโรงงานอุตสาหกรรม
– รับน้ำหนักได้มาก
– เสถียรภาพสูง
3. **รถยกไฟฟ้าขนาดใหญ่ (4.0-5.0 ตัน)**
– สำหรับงานหนักในอุตสาหกรรม
– แข็งแรงทนทานพิเศษ
– ระบบความปลอดภัยครบครัน
แบรนด์ชั้นนำที่มีจำหน่าย
– โตโยต้า (TOYOTA)
– นิชิยู (NICHIYU)
– นิสสัน (NISSAN)
– มิตซูบิชิ (MITSUBISHI)
– คราว (CROWN)
จุดที่ต้องตรวจสอบก่อนซื้อ
1. **ระบบแบตเตอรี่**:
– อายุการใช้งานแบตเตอรี่
– ความจุไฟฟ้า
– สภาพเซลล์แบตเตอรี่
2. **มอเตอร์ไฟฟ้า**:
– กำลังมอเตอร์
– ระบบควบคุม
– การทำงานของระบบเบรก
3. **ระบบไฮดรอลิก**:
– การรั่วซึม
– ความเร็วในการยก
– ความแม่นยำในการควบคุม
อุปกรณ์มาตรฐาน
✅ หลังคานิรภัย
✅ ไฟส่องสว่าง LED
✅ สัญญาณเตือนถอยหลัง
✅ ระบบตัดไฟฉุกเฉิน
✅ จอแสดงผลดิจิตอล
✅ ที่พักแขนและเบาะนั่งปรับระดับ
บริการของเรา
– รับประกันแบตเตอรี่
– รับประกันตู้ชาร์จ
– รับประกันตัวรถ มอเตอร์และแผงวงจร
– บริการหลังการขาย
– อะไหล่พร้อมบริการ
– สอนการใช้งานฟรี
– ดูแลตลอดอายุการใช้งาน
โปรโมชั่นพิเศษ
– แถมเครื่องชาร์จแบตเตอรี่มาตรฐาน
– ฟรีค่าขนส่งในเขตกรุงเทพฯ
– บริการผ่อนชำระสูงสุด 36 เดือน
– รับแลกเปลี่ยนรถเก่า
ข้อแนะนำการใช้งาน
1. การชาร์จแบตเตอรี่ที่ถูกวิธี
2. การบำรุงรักษาประจำวัน
3. การตรวจเช็คความปลอดภัย
4. การใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ
5. การยืดอายุการใช้งาน
รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้ายืนขับ

รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้ายืนขับมือสอง คุณภาพเยี่ยม พร้อมใช้งาน
รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้ายืนขับมือสอง (Electric Stand-up Reach Truck) เป็นอุปกรณ์ขนย้ายสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในคลังสินค้าและโรงงานอุตสาหกรรม ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นในการประหยัดพื้นที่ทำงานและความคล่องตัวสูง
คุณสมบัติเด่นของรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้ายืนขับ
– ประหยัดพลังงาน ด้วยระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า 100%
– เหมาะสำหรับพื้นที่จำกัด ด้วยรัศมีวงเลี้ยวแคบ
– ควบคุมง่าย ปลอดภัยสูง ด้วยระบบเบรกอัตโนมัติ
– รองรับน้ำหนักได้ตั้งแต่ 1-3 ตัน
– แบตเตอรี่ทนทาน ใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุด 5 ชั่วโมง
– เหมาะสำหรับงานในคลังสินค้า โกดัง และโรงงาน
ข้อดีของการเลือกรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้ามือสอง
1. ประหยัดงบประมาณกว่าซื้อใหม่ 40-60%
2. ผ่านการตรวจสอบสภาพโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ
3. อะไหล่แท้ครบชุด พร้อมใช้งาน
4. รับประกันการใช้งาน
5. บริการหลังการขายครบวงจร
การใช้งานที่เหมาะสม
– งานจัดเรียงสินค้าในคลัง
– งานขนย้ายพาเลท
– งานในพื้นที่จำกัด
– งานที่ต้องการความแม่นยำสูง
– งานที่ต้องการความรวดเร็วในการขนถ่าย
การบำรุงรักษา
– ตรวจเช็คระดับน้ำกลั่นแบตเตอรี่สม่ำเสมอ
– ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ทุก 3 เดือน
– ตรวจสอบระบบไฮดรอลิกทุก 6 เดือน
– เปลี่ยนน้ำมันไฮดรอลิกตามกำหนด
– ตรวจสอบระบบเบรกและยางเป็นประจำ
ความปลอดภัยในการใช้งาน
– ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
– ระบบป้องกันการยกเกินพิกัด
– สัญญาณเตือนขณะถอยหลัง
– ไฟส่องสว่างสำหรับการทำงาน
– ระบบตัดการทำงานฉุกเฉิน
เหตุผลที่ควรเลือกซื้อกับเรา
1. รับประกันคุณภาพทุกคัน
2. มีใบรับรองการตรวจสภาพ
3. ราคายุติธรรม คุ้มค่าการลงทุน
4. บริการซ่อมบำรุงตลอดอายุการใช้งาน
5. จัดส่งทั่วประเทศ
รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าแบบนั่งขับข้าง

รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้านั่งขับข้างมือสอง คุณภาพเยี่ยม ราคาคุ้มค่า
รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้านั่งขับข้างมือสอง (Electric Reach Truck) เป็นรถยกที่ได้รับความนิยมสูงในการใช้งานคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้า ด้วยการออกแบบที่ให้ผู้ขับนั่งด้านข้าง ช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์ในการมองเห็นและความสะดวกสบายในการทำงาน
จุดเด่นของรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้านั่งขับข้าง
– ยกสูงได้มากกว่า 10 เมตร เหมาะกับชั้นวางสินค้าสูง
– ประหยัดพื้นที่ด้วยระบบ Reach ที่ยื่นงาออกไปหยิบสินค้าได้
– ควบคุมง่ายด้วยระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ
– รองรับน้ำหนักได้ 1.5-2.5 ตัน
– แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน
– ตัวเครื่องแข็งแรง ทนทาน มาตรฐานญี่ปุ่น/ยุโรป
ประโยชน์ของการเลือกซื้อรถนั่งขับข้างมือสอง
1. ประหยัดต้นทุนได้มากกว่า 50% เมื่อเทียบกับรถใหม่
2. ผ่านการตรวจเช็คจากผู้เชี่ยวชาญ
3. อะไหล่พร้อม บริการครบวงจร
4. มีใบรับรองการตรวจสภาพ
5. รับประกันหลังการขาย
เหมาะสำหรับการใช้งาน
– คลังสินค้าที่มีชั้นวางสูง
– ศูนย์กระจายสินค้า
– โรงงานอุตสาหกรรม
– ซุปเปอร์มาร์เก็ต
– โกดังเก็บสินค้า
การดูแลรักษา
– เช็คระดับน้ำกลั่นแบตเตอรี่ทุกสัปดาห์
– ทำความสะอาดและตรวจสอบขั้วแบตเตอรี่
– ตรวจสอบระบบไฮดรอลิกทุก 3 เดือน
– เช็คระบบเบรกและยางเป็นประจำ
– ตรวจเช็คระบบ Reach อย่างสม่ำเสมอ
ระบบความปลอดภัย
– ระบบเบรกอัตโนมัติ
– ระบบป้องกันการยกเกินพิกัด
– สัญญาณเตือนการทำงาน
– ระบบป้องกันการชน
– ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับจากเรา
1. การรับประกันคุณภาพ
2. เอกสารรับรองการตรวจสภาพ
3. บริการซ่อมบำรุงฉุกเฉิน
4. อะไหล่แท้พร้อมบริการ
5. ทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ
แบรนด์ยอดนิยม
– TOYOTA
– BT
– CROWN
– JUNGHEINRICH
ข้อเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียรถไฟฟ้าแต่ละแบบ
1. รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้านั่งขับ (Electric Counter Balance Forklift):
ข้อดี:
– สบายในการขับขี่ เหมาะกับการใช้งานต่อเนื่องยาวนาน
– มีความเสถียรสูงเพราะมีน้ำหนักถ่วงมาก
– ยกของหนักได้มากกว่า (1.5-5 ตัน)
– มีหลังคาป้องกันแดดฝนให้ผู้ขับขี่
– ทัศนวิสัยดีรอบทิศทาง
– เหมาะกับพื้นที่กว้าง ทางเดินรถกว้าง
ข้อเสีย:
– ราคาแพงกว่าแบบอื่น
– ใช้พื้นที่ในการหมุนตัวมาก
– ขนาดใหญ่ ไม่เหมาะกับพื้นที่แคบ
– น้ำหนักมาก อาจไม่เหมาะกับพื้นที่รับน้ำหนักจำกัด
– สิ้นเปลืองแบตเตอรี่มากกว่า
2. รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้ายืนขับ (Electric Stand-up Reach Truck):
ข้อดี:
– คล่องตัวสูง หมุนตัวได้ในพื้นที่แคบ
– ขึ้นลงรถได้รวดเร็วกว่าแบบนั่งขับ
– เหมาะกับงานที่ต้องขึ้นลงรถบ่อย
– ประหยัดพื้นที่จัดเก็บ
– ราคาถูกกว่าแบบนั่งขับ
– ประหยัดแบตเตอรี่กว่า
ข้อเสีย:
– อาจเมื่อยขาเมื่อใช้งานต่อเนื่องนาน
– ยกของได้น้ำหนักน้อยกว่า (1-3 ตัน)
– เสถียรภาพน้อยกว่าแบบนั่งขับ
– ไม่เหมาะกับการทำงานกลางแจ้ง
3. รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้านั่งขับข้าง (Electric Reach Truck):
ข้อดี:
– เหมาะสำหรับทางเดินแคบและชั้นวางสูง (สูง 7-12เมตร)
– ประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บสินค้า
– มีระบบ Reach ที่ยืดงาออกได้
– ทัศนวิสัยดีในการจัดเก็บสินค้าสูง
– ประหยัดแบตเตอรี่
– เหมาะกับคลังสินค้าที่มีชั้นวางสูงมากๆ
ข้อเสีย:
– ราคาสูงกว่าแบบยืนขับ
– ต้องการพื้นผิวที่เรียบมาก
– ไม่เหมาะกับการใช้งานนอกอาคาร
– ต้องการการฝึกอบรมผู้ใช้งานเฉพาะทาง
– ซ่อมบำรุงยากกว่า มีระบบซับซ้อน
คำแนะนำในการเลือก:
1. เลือกแบบนั่งขับ หาก:
– ต้องยกของหนัก
– ใช้งานต่อเนื่องยาวนาน
– มีพื้นที่กว้าง
– ทำงานกลางแจ้งบ่อย
2. เลือกแบบยืนขับ หาก:
– ต้องการความคล่องตัว
– ทำงานในพื้นที่แคบ
– ขึ้นลงรถบ่อย
– งบประมาณจำกัด
3. เลือกแบบนั่งขับข้าง หาก:
– มีชั้นวางสินค้าสูงมากๆ
– ต้องการประหยัดพื้นที่จัดเก็บ
– ทำงานในทางเดินแคบ
– ต้องการความแม่นยำในการจัดเก็บ